MENA Newswire News Desk: Appleได้ประกาศเปิดตัวระบบ Apple Intelligence ที่ทุกคนรอคอย ซึ่งออกแบบมาเพื่อปฏิวัติประสิทธิภาพการทำงานส่วนบุคคลด้วยการผสานรวมโมเดลสร้างสรรค์ขั้นสูงเข้ากับบริบทส่วนบุคคล เริ่มตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป ผู้ใช้จะสามารถเข้าถึง Apple Intelligence บน iPhone, iPad และ Mac ได้ผ่าน iOS 18.1, iPadOS 18.1 และ macOS Sequoia 15.1 ระบบที่ผสมผสานการเรียนรู้ของเครื่องที่เน้นความเป็นส่วนตัวเข้ากับเครื่องมือที่ใช้งานง่ายนี้จะเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาเป็นแห่งแรก โดยจะมีการรองรับเวอร์ชันภาษาอังกฤษที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่นเพิ่มเติมในออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และภูมิภาคอื่นๆ ในช่วงปลายปีนี้
Apple Intelligence เปิดตัวฟีเจอร์ล้ำสมัยมากมาย เช่น เครื่องมือเขียน ความสามารถในการแก้ไขรูปภาพที่ได้รับการปรับปรุง และการโต้ตอบกับ Siri ที่ได้รับการปรับปรุง ด้วยการผสานรวมที่ราบรื่นเข้ากับระบบนิเวศของ Apple ระบบนี้ช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งข้อความ ค้นหารูปภาพ และจัดการอีเมลได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น เครื่องมือ Clean Up ใน Photos ช่วยให้ผู้ใช้สามารถลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากรูปภาพได้ ขณะที่การประมวลผลภาษาธรรมชาติของ Siri ช่วยให้สามารถรักษาบริบทสำหรับคำขอหลายรายการได้ ทำให้ตอบสนองได้ดียิ่งกว่าที่เคย
เทคโนโลยีนี้ยังใช้ประโยชน์จากการประมวลผลบนอุปกรณ์และ Private Cloud Compute เพื่อรับประกันความเป็นส่วนตัว ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของแนวทาง AI ของ Apple โมเดลต่างๆ มากมายที่ขับเคลื่อน Apple Intelligence ทำงานบนอุปกรณ์ทั้งหมด เพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ ในขณะที่งานที่ซับซ้อนได้รับการจัดการผ่าน Private Cloud Compute ซึ่งรับประกันว่าจะไม่มีการจัดเก็บหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลกับ Apple การผสานรวมการประมวลผลบนเซิร์ฟเวอร์นี้ถือเป็นก้าวสำคัญในด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของ AI
เครื่องมือใหม่ เช่น Writing Tools ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเขียนใหม่ ตรวจทาน และสรุปเนื้อหาในแอปของ Apple และแพลตฟอร์มของบริษัทอื่นได้ นอกจากนี้ Apple Intelligence ยังช่วยลดความซับซ้อนของงานประจำวันด้วยฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การแจ้งเตือนแบบสรุป โหมดโฟกัสเพื่อลดการรบกวน และการจัดการ Mail ที่ชาญฉลาดขึ้น โดยข้อความสำคัญจะถูกทำเครื่องหมายเพื่อให้ได้รับความสนใจทันที นอกจากนี้ ยังสามารถค้นหารูปภาพและวิดีโอได้โดยใช้ภาษาธรรมชาติ ทำให้ค้นหาช่วงเวลาที่ต้องการได้ง่ายขึ้น
Siri ได้รับการอัปเกรดครั้งสำคัญเป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดตนี้ โดยมีการออกแบบที่ยืดหยุ่นและเป็นธรรมชาติมากขึ้น รวมถึงการจดจำบริบทที่ได้รับการปรับปรุง ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับ Siri ได้ด้วยเสียงหรือข้อความ และระบบสามารถตอบคำถามหลายพันข้อที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์และการตั้งค่าของ Apple ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการปรับปรุงของ Siri ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานต่างๆ เช่น การแชร์รหัสผ่าน Wi-Fi หรือการบันทึกหน้าจอได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ Apple ยังบอกเป็นนัยถึงการขยายความสามารถด้าน AI ในอนาคตอีกด้วย ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น Image Playground และ Image Wand จะเปิดตัวขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหาวิดีโอได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างอีโมจิสร้างสรรค์ใหม่หรือ Genmoji ได้โดยเพียงแค่พิมพ์คำอธิบาย Apple Intelligence มุ่งมั่นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผู้ใช้และมอบประสบการณ์ที่ใช้งานง่ายยิ่งขึ้นด้วยการผสานรวม AI เข้ากับบริบทส่วนบุคคล
ระบบ Apple Intelligence จะเปิดให้อัปเดตฟรีบนอุปกรณ์ที่เข้าเงื่อนไข รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 16 และ Mac ที่ใช้ชิป M1 ขึ้นไป แม้ว่าภาษาอังกฤษแบบอเมริกันจะเป็นภาษาเริ่มต้นที่รองรับ แต่จะมีภาษาอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ฝรั่งเศส สเปน และจีน จะเปิดตัวในปีหน้า ซึ่งจะช่วยขยายความสามารถของระบบทั่วโลก