ขณะที่ปี 2024 ดำเนินไป ราคาทองคำ พุ่งขึ้นมากกว่า 20% ทำให้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ให้ความสนใจมากขึ้น เนื่องจากทองคำเริ่มโดดเด่นกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยรวม ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินระบุว่าแนวโน้มนี้ได้รับอิทธิพลอย่างมากจาก การเปลี่ยนแปลงนโยบาย ของธนาคารกลาง สหรัฐฯ ที่อาจมุ่งลดอัตราดอกเบี้ย
ในเดือนสิงหาคม ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 21% นับตั้งแต่ต้นปี เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ดัชนี S&P 500 พบว่าเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยที่ 16% ราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้นสอดคล้องกับตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ เช่น รายงานการจ้างงานที่น่าผิดหวังและการชะลอตัวของภาคส่วนที่อยู่อาศัย ซึ่งร่วมกันกระตุ้นให้เกิดการหารือเกี่ยวกับความจำเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่เข้มงวดยิ่งขึ้นของเฟด
สถาบันการเงินต่างๆ กำลังปรับการคาดการณ์เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด ตัวอย่างเช่น Commerzbank Researchได้แก้ไขการคาดการณ์ราคาทองคำเมื่อไม่นานนี้ โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 6 ครั้งภายในกลางปี 2025 การแก้ไขครั้งนี้บ่งชี้ว่าราคาทองคำอาจพุ่งขึ้นเป็น 2,600 ดอลลาร์ภายในปีหน้า และลดลงเล็กน้อยเป็น 2,550 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2025 อันเนื่องมาจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง
นักวิเคราะห์ตลาดรายอื่นๆ มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มราคาทองคำในอนาคต Bart Melek จาก TD Securities คาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจพุ่งไปถึง 2,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเร็วๆ นี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟด ในทำนองเดียวกัน Patrick Yip จาก American Precious Metals Exchange คาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจพุ่งไปถึงระดับ 3,000 ดอลลาร์ภายในปีหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงดำเนินอยู่และการซื้อที่เพิ่มขึ้นของธนาคารกลางทั่วโลก
บทบาทของธนาคารกลางในการกระตุ้นความต้องการทองคำนั้นไม่สามารถพูดเกินจริงได้ ประเทศต่างๆ เช่น จีน ตุรกี และอินเดีย ต่างก็เคลื่อนไหวอย่างแข็งขันในการกระจายสำรองของตนออกจากดอลลาร์สหรัฐ ส่วนหนึ่งเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความเสี่ยงที่เห็นได้ชัดจากการอายัดสินทรัพย์ดอลลาร์ของรัสเซียหลังจากการรุกรานของยูเครน ปีที่แล้วเพียงปีเดียว ธนาคารกลางได้เพิ่มทองคำเข้าไปในสำรองของตนมากกว่า 1,000 เมตริกตัน โดยธนาคารประชาชนจีนและ ธนาคารกลางอินเดีย ได้ซื้อ ทองคำ เป็นจำนวนมาก
เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยยังคงมีอยู่ นักลงทุนจึงหันมาลงทุนในทองคำมากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย Mark Spitznagel นักลงทุนชื่อดังจาก Universa Investments เตือนว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยกำลังจะเกิดขึ้น โดยระบุว่าฟองสบู่ในตลาดปัจจุบันเป็นฟองสบู่ที่ใหญ่ที่สุดและกำลังจะแตกในไม่ช้านี้ สถานการณ์ดังกล่าวยิ่งตอกย้ำถึงความน่าดึงดูดใจของทองคำในฐานะการลงทุนที่เชื่อถือได้ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน